เซวีย เหริน กุ้ย หรือที่คนไทยรู้กันในนามว่า “ซิยิ่นกุ้ย” แต่จริงๆถ้าจะออกเสียงให้ถูกต้องในภาษาจีนแต้จิ๋วแล้ว ต้องออกเสียงว่า “ซิ หยิ่น กุ่ย“ เป็นแม่ทัพใหญ่ในช่วงปลายสมัยของถังไท่จง ขึ้นชื่อในฝีมือการรบ เคยรบกับอาณาจักรโคกูรยอทางเกาหลีด้วย (ในค.ศ.640ช่วงปลายสมัยโคกูรยอแล้ว ด้วยความร่วมมือกันกับอาณาจักรชิลลาสมัยพระนางซอนต๊อก ซึ่งความจริงก่อนหน้านี้จีนไม่เคยชนะโคกูรยอมาก่อน แต่ทว่าหลังโคกูรยอเสียนายพล ยอนแกโชมุนไป โคกูรยอก็อ่อนแอลงอย่างชัดเจน จนเสียเอกราชแก่ชิลลาในค.ศ.642) และได้รบกับทิเบต ในค.ศ.670 และเสียชีวิตในค.ศ.683
มีตำนานกล่าวขานว่าถังไท่จงทรงสุบิน(ฝัน)ร้ายว่ามีปีศาจทำร้าย และขุนพลชุดขาวก็มาช่วย โดยฉีม่อกงก็ได้ทำนายว่าบุคคลนี้จะเป็นแม่ทัพที่มาช่วยพระองค์ ถังไท่จงจึงได้สั่งให้ประกาศรับสมัครทหาร และซิยิ่นกุ้ยก็ได้เข้ารับราชการและสร้างผลงานจนได้เป็นแม่ทัพใหญ่ และกินถึงวันละ7ถัง!!! แต่ตายด้วยฝีมือลูกชาย “ซิ เต็ง ซาน” ที่ฝันร้ายว่าถูกเสือกระโจนใส่ ซึ่งมีเรื่องที่กล่าวกันว่า ซิยิ่นกุ้ยเป็นเทพเสือขาวจุติมา(จุติแปลว่าตายนะครับ ไม่ได้แปลว่าเกิดอย่างที่เข้าใจกัน)ส่วนซิเต็งซานเป็นเทพมังกรเขียว ซึ่งตรงข้ามกัน (ตามหลักฮวงจุ้ย มี4ทิศคือ เหนือ – เต่าดำ,ใต้ – หงส์แดง ตะวันออก – เสือขาว และตะวันตก – มังกรเขียว) ซึ่งเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง หลังสมัยราชวงศ์ถังแล้ว
เรื่องราวของซิยิ่นกุ้ยถูกนำมาทำเป็นหนัง รวมถึงงิ้ว และ“กวยแฉะ”เพลงงิ้วของจีน ซึ่งเรื่องราวจะยาวไปจนถึงรุ่นหลานของซิยิ่นกุ้ย คือ “ซิ กัง” และ1ในนั้นก็คือ “ซิยิ่นกุ้ย จอมทัพคู่บัลลังก์” แต่ทว่าเรื่องราวกลับจบลงที่รุ่นซิยิ่นกุ้ยเอง ไม่ได้ยาวจนรุ่นหลาน ซึ่งถ้าต่อจากนั้นมีตำนานว่าซิเต็งซานถูกประหารทั้งตระกูล ในสมัยถังเกาจง(หลี่จื้อ)โดยถูกกังฉินให้ร้าย พอต่อมาได้ขุดสุสานที่ฝังศพของตระกูลซิ ก็ได้พบว่าส่วนหัวกับส่วนลำตัวได้ต่อเข้ากัน เฉิงเหย่าจิน(ที่ในหนังเรียกกันว่าพระพันปีเฉิง)ก็ได้หัวเราะว่าซิเต็งซานนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ จนตายด้วยวัย120 ปี
เพิ่มติมอีกเล็กน้อยด้วยเรื่องของ “เว่ย เจิง” ขุนนางตงฉินของถังไท่จง ซึ่งในหนังเป็นผู้ทัดทานเรื่องบำเหน็จของแม่ทัพที่ไปรบในป๋อเหลียว(รวมถึงซิยิ่นกุ้ยด้วย)บุคคลนี้ได้ชื่อว่าเป็นกระจกวิเศษของถังไท่จง ทัดทานเรื่องต่างๆที่เห็นว่าไม่สมควร ไม่ดีต่อบ้านเมืองของถังไท่จง เมื่อถึงแก่อสัญกรรม ถังไท่จงทรงเสียพระทัยอย่างมาก พระองค์ทรงตรัสว่า:
“การใช้คันฉ่องทองเหลืองสามารถส่องดูการแต่งตัวได้ เฉกเช่นเดียวกับการนำประวัติศาสตร์มาเป็นกระจกเงาสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและการล่มสลาย ดังนั้น การนำคนมาเป็นกระจกเงาสามารถทำให้ล่วงรู้ความถูกและความผิดได้เช่นกัน บัดนี้เว่ยเจิงได้เสียชีวิตไปแล้ว ข้าก็ถือว่ามีกระจกเงาน้อยลงไปอีกหนึ่งบาน”
อีกหนึ่งคน อี้ ฉือ กง เป็นแม่ทัพใหญ่ของราชวงศ์ถัง จัดได้ว่าเป็นแม่ทัพที่ร่วมรบกับถังไท่จงมาตลอด ซึ่งก็มีตำนานว่าเขามี “แส้โบยอ๋อง” ที่สามารถโบยฮ่องเต้ประพฤติผิดได้ และได้มีคำทำนายว่า“ม้าตาย แส้หัก คนตาย” ซึ่งอี้ฉือกงมีม้าส่วนตัวชื่อม้าเมฆดำ และเมื่อซิยิ่นกุ้ยถูกให้ร้าย เขาได้เข้าเฝ้าถังเกาจง เพื่อขออภัยโทษ แต่เมื่อไม่เป็นเช่นนั้น อี้ฉือกงจึงได้ใช้แส้นี้ไล่ตีถังเกาจงจนแส้หัก และเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าตัวจึงฆ่าตัวตายโดยเอาหัวโขกเสา
โดยสมัยของซิยิ่นกุ้ยตรงกับสมัยปลายสามก๊กเกาหลี และตรงกับไทยสมัยทวาราวดี และยุคกลางของยุโรป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น