tweetbutton

วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เรื่องบันเทิง...แบบอิงประวัติศาสตร์ระหว่างไทย VS เกาหลี

เรื่องบันเทิง...แบบอิงประวัติศาสตร์ระหว่างไทย VS เกาหลี

หนัง-ละครแนวอิงประวัติศาสตร์ไทยกับเกาหลี เท่าที่เราดูกันมาตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ เราพอเห็นจุดที่แตกต่างกันได้ในประเด็นคร่าวๆดังนี้ครับ

1. เกาหลีมีเรื่องความรักระหว่างชายหญิงในประวัติศาสตร์ ส่วนไทย มีแต่เรื่องรักชาติอย่างเดียว รักแบบชายหญิงเราไม่ค่อยเห็นและมักเป็นแบบที่แต่งขึ้นมากกว่า อย่างเช่น สี่แผ่นดิน เป็นต้น หนังอิงประวัติศาสตร์ไทยเห็นทำมาแต่ละทีก็มีแต่ช่วงเสียกรุงศรีฯ2ครั้ง หรือการชิงราชย์ก็มีแต่ท้าวศรีสุดาจันทร์( 2 เรื่อง คือกบฏศรีสุดาจันทร์ กับ สุริโยทัย ละครก็คือ กษัตริยา) การชิงราชย์ในสมัยอยุธยานับคร่าวๆก็มีถึง15ครั้งดังนี้







1. ขุนหลวงพะงั่ว(สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1) ชิงราชย์พระราเมศวร พ.ศ.1913

2. พระราเมศวรชิงราชย์พระเจ้าทองจันทร์ (ทองลัน) พ.ศ.1931

3. พระรามราชาธิราช ถูกขุนนางฝ่ายกลาโหม(เจ้าพระยามหาเสนาบดี)ยึดอำนาจ แล้วเชิญพระนครินทราธิราช(เจ้านครอินทร์)ครองราชย์ พ.ศ.1952

4. เจ้าอ้าย เจ้ายี่ ชิงราชย์ ชนช้างกันจนสิ้นพระชนม์ เจ้าสามพระยาได้ราชสมบัติ (เรื่องนี้เข้าข่าย ตาอินกับตานาแย่งปลากัน ตาอยู่กลับได้ปลาไป)

5. พระไชยราชา ชิงราชย์ พระรัษฏาธิราช โอรสพระหน่อพุทธางกูร พ.ศ. 2077

6. ท้าวศรีสุดาจันทร์ ร่วมกับขุนชินราช ชิงราชย์ พระยอดฟ้า โอรสพระไชยราชา พ.ศ. 2091 (อันนี้เข้าข่ายกงกรรม กงเกวียน ฆ่าลูกเขา เขาก็ฆ่าลูกตัว)

7. กลุ่มขุนพิเรนทรเทพ(พระมหาธรรมราชา) ชิงราชย์ ขุนวรวงศา(ขุนชินราช) พ.ศ. 2091

8. กลุ่มหมื่นศรีสรรักษ์ ชิงราชย์ พระอาทิตย์วงศ์ แล้วเชิญพระเจ้าทรงธรรมครองราชย์ พ.ศ. 2163

9. พระศรีศิลป์ ชิงราชย์กับ พระเชษฐาธิราช พระเชษฐาธิราชได้ราชสมบัติ พ.ศ. 2131

10. เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ ชิงราชย์ พระเชษฐาธิราช แล้วเชิญพระอาทิตยวงศ์ ครองราชย์ พ.ศ. 2132

11. พระอาทิตยวงศ์ ถูกปลดจากราชสมบัติ เจ้าพระยากลาโหม(คนเดียวกับครั้งที่10) ได้เป็นพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ. 2172

12. พระศรีสุธรรมราชาร่วมกับ พระนารายณ์ ชิงราชย์ เจ้าฟ้าไชย พ.ศ. 2199

13. พระนารายณ์ชิงราชย์ พระศรีสุธรรมราชา พ.ศ. 2199

14. การชิงอำนาจระหว่าง ขุนหลวงสรศักดิ์(เจ้านายวังหน้า) กับ พระโอรสพระเพทราชา(เจ้านายวังหลวง) พ.ศ. 2246

15. การชิงราชย์กันระหว่างเจ้าฟ้าพร (พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) กับ เจ้าฟ้าอภัยและเจ้าฟ้าปรเมศร์ ผลคือ เจ้าฟ้าพรได้ราชสมบัติ พ.ศ. 2275

เหตุที่ร่ายเรียงการชิงราชย์มาเสียยาวขนาดนี้ เพื่อให้เห็นว่า มีการชิงราชย์ที่น่าจะนำมาทำหนังทำละครกันบ้าง แต่เท่าที่นำมาทำเป็นหนังกันจริงๆ กลับมีแค่ 3 ครั้ง คือครั้งที่5,6 และ 7 เท่านั้น

2. เกาหลีมีเรื่องชาวบ้านๆด้วย อย่าง อิมซังอ๊ก หรือฮวางจินยี หรือแม้แต่ ซินยุนบก แต่ไทยเรามี แต่เรื่องในราชวงศ์ อันนี้เราพอเข้าใจได้ว่า ต้องการเทิดทูนสถาบัน ซึ่งก็ดีอย่างหนึ่ง และประกอบกับ การที่กรุงศรีฯถูกพม่าเผาอย่างวายวอดในพ.ศ. 2310 จึงไม่สู้จะมีหลักฐานหลงเหลือมากนัก แต่ ถ้าความพยายามหาหลักฐานยังไม่สิ้นสุด อนาคตก็คงได้เห็นหนัง-ละครแบบนี้กันบ้าง แต่เราก็คงไม่ต้องพูดถึงคิมชูซอน เพราะ เป็นเรื่องของขันที ที่ไทยมีแต่ชาวแขก เรียกว่า นักเทษขันที และหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ชัดเจน





นี่ก็อาจสาเหตุที่ว่า ทำไมหนัง - ซีรี่ส์เกาหลี ถึงขายดี มีคนดูกันมาก(รวมถึงผมด้วย) และเขาก็รู้จัก นำประวัติศาสตร์ชาติตัวเองมาใช้ประโยชน์ เชื่อว่า ถ้าไทยรู้จักใช้ประวัติศาสตร์ให้เป็นประโยชน์กว่านี้ ประเทศชาติจะก้าวไปมากกว่านี้แน่ๆครับ ^_^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น